เชื่อว่าหลายๆคนคงเคยได้ยินหรืออาจจะเคยซื้อของผ่านแอพ Shopee กันมาบ้าง แต่หากใครไม่เคยก็ต้องบอกเลยว่าให้รีบลงแอพไว้ซะ เพราะนอกจากจะช้อปปิ้งกันได้แล้ว เรายังสามารถทำธุรกิจผ่านดรอปชิปไทยในระบบ Shopee ได้ง่ายๆอีกด้วย แบบไม่ต้องสต็อคของหรือแพคของเอง สามารถสร้างรายได้เสริมให้กับหลายๆคนได้ง่ายๆ มาเริ่มลุยกันแบบฮาวทูเข้าใจง่ายสเต็ปบายสเต็ปกันเลยดีกว่า
ข้อควรรู้เกี่ยวกับ Shopee
หลายๆคนอาจจะไม่รู้ว่าจริงๆแล้ว Shopee เป็น e-commerce หรือออนไลน์แพลตฟอร์มที่จัดว่าค่อนข้างใหญ่เลยสำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งไทยก็เป็นหนึ่งในนั้น โดยแรกเริ่มเลยมาจากสิงคโปร์ สินค้าที่ขายก็มีตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบเลยทีเดียว มีทั้งสินค้าดรอปชิปแบบไทย ดรอปชิปต่างประเทศ รวมถึงเจ้าของแบรนด์เองก็มาลงขายกันเพียบ การแบ่งหมวดหมู่ใน Shopee ถือว่าทำได้ค่อนข้างดี ทำให้สินค้าและร้านค้าแยกกันค่อนข้างชัดเจน ลูกค้าหาเจอได้ง่าย และที่สำคัญยังมีโปรโมชั่นเด็ดมาช่วยกระตุ้นการขายทำให้ร้านค้าขายดียิ่งขึ้นไปอีกด้วย ในแง่การลงทุน
หากเรายังเป็นมือใหม่ ทุนไม่หนาขอแนะนำการหาสินค้าแบบดรอปชิปจากในไทย ที่ขนส่งง่าย ต้นทุนไม่แรงนัก ซึ่งจะช่วยให้พ่อค้าแม่ค้าไม่เหนื่อยมากและไม่ต้องลงเงินในจำนวนที่เยอะ ลดความเสี่ยงและลดความเครียดไปในตัวด้วย
วิธีการสมัคร Shopee
หลังจากตัดสินใจเริ่มลงมือทำ ขอแนะนำให้เริ่มสมัครแอคเคาต์สำหรับการเป็นร้านค้าใน Shopee ก่อนเลยเป็นอันดับแรก ใครถนัดมือถือก็รีบลงแอพ Shopee แบบด่วนๆ แต่หากใครมีคอมพิวเตอร์ ก็สมัครในคอมได้เลยเช่นกัน จะได้ตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องง่ายขึ้นและครบถ้วนอีกด้วย โดยหลักๆ เราจะต้องมีเบอร์โทรศัพท์ที่ใช้ในการสร้างร้านค้า หรือหากมีอีเมล์ก็ใส่ไปด้วย พร้อมกับตั้งรหัสผ่านในการใช้งาน หลังจากนั้นก็เตรียมเปิดร้านค้าบน Shopee กันได้เลย
เปิดร้านค้าบน Shopee ยังไงให้ปัง
จากที่แนะนำไปคือ ให้เลือกวิธีการทำธุรกิจแบบลงทุนไม่หนัก โดยใช้บริการดรอปชิปแบบไทยเพื่อเป็นการลองเทสต์ ตลาดและควบคุมต้นทุนก่อน จากนั้นเราก็ต้องมาสร้างสรรค์ร้านค้าของเราให้สะดุดตา เพราะถึงจะอยู่ในโลกออนไลน์ แต่เราก็ต้องทำให้ลูกค้าอยากแวะมาเยี่ยมชมร้านค้าของเราเสมอ รวมถึงใส่ใจในเรื่องรูปภาพ เพราะเปรียบเสมือนตัวแทนในแง่คุณภาพสินค้าของเรา ลองนึกดูว่า หากเราอยากซื้อของออนไลน์ผ่าน Shopee แต่เปิดไปเจอร้าน ที่ขายสินค้าแบบไม่ใส่คำอธิบายใดๆ แถมรูปยังมัวๆ ไม่ชัดเจนอีก เราก็คงไม่กล้าซื้อเท่าไหร่ อาจจะต้องไปวนหาร้านอื่นแทนเพื่อสร้างความมั่นใจว่าเราจะได้รับสินค้าที่ดีมีคุณภาพแบบแน่นอน ดังนั้นเมื่อเราได้วิเคราะห์และทำความเข้าใจกับความต้องการของลูกค้าแล้ว เราก็ควรจะเริ่มสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับร้านค้าของเรา ยิ่งบน Shopee มีสินค้าทั้งดรอปชิปไทย และดรอปชิปเทศ มากมายหลายร้าน เรายิ่งต้องทำให้ร้านเราน่าสนใจและโดดเด่นที่สุด เพื่อจะเรียกลูกค้าเข้าร้านเราแทนที่จะไปเข้าร้านค้าอื่นๆบน Shopee ลองมาดูกันว่าเคล็ดลับทำร้านให้ปังด้วยดรอปชิปแบบไทยบน Shopee มีอะไรบ้าง
- รูปภาพสินค้าที่ชัดเจนน่าเชื่อถือ แนะนำให้ลองหาภาพถ่ายที่ชัดเจนจากบริษัทดรอปชิปที่เราไปคัดเลือกสินค้า เพราะอาจจะมีเจ้าอื่นขายสินค้าคล้ายๆกับเรา หากเค้าใช้บริการดรอปชิปจากไทยหรือเทศเหมือนๆกับเรา ดังนั้น ทำยังไงก็ได้ให้สินค้าที่เหมือนๆกัน ดูแตกต่าง การเลือกรูปจัดเป็นปัจจัยที่สำคัญมากๆเลยค่ะ ยิ่งรูปถ่ายมีมุมองศา หรือมุมมองหลายๆมุม ทำให้ลูกค้าสามารถพิจารณาและตัดสินใจได้ง่ายขึ้น อีกทั้งต้องไม่ลืมว่าร้านค้าใหม่ๆเกิดขึ้นบน Shopee ในทุกๆวัน การสร้างความแตกต่าง และการสร้างจุดขายให้กับร้านค้าของเราบน Shopee ด้วยรูปถ่ายคุณภาพดีจึงจัดเป็นสิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึงเลยก็ว่าได้
- การตั้งชื่อสินค้าบน Shopee ด้วยคีย์เวิร์ดที่ลูกค้าหาค้นหาได้ง่าย อย่างที่เรารู้กันว่าบน Shopee มีสินค้าดรอปชิปจากไทยและต่างประเทศในหลายๆเจ้า ดังนั้นการค้นหาสินค้าด้วยคีย์เวิรด์ที่ง่าย และลูกค้ามักเลือกใช้ในการค้นหาจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง หากเราเลือกคีย์เวิร์ดได้ถูก จับทางลูกค้าเวลาเค้าหาของบน Shopee ได้ ลูกค้าก็จะหาร้านเราเจอได้ง่ายยิ่งขึ้น
- สถานะหรือ Status ของร้านค้าบน Shopee ตรงนี้ทำความเข้าใจกันก่อนว่าคำว่า “สถานะ” ของร้านค้าถือเป็นจุดสำคัญอย่างหนึ่งเหมือนกัน เพราะหากเรามีการออนไลน์เกือบตลอดเวลา หรือขึ้นว่า Active ลูกค้าจะเห็นว่าเราพร้อมให้บริการ และพร้อมให้ความช่วยเหลือ ยิ่งถ้าเราสามารถตอบคำถามเค้าได้ไว ไม่ปล่อยให้รอนานก็จะยิ่งทำให้ลูกค้าประทับใจ เพราะหลายๆครั้งผู้ซื้อบน Shopee อาจจะมีความสงสัยในตัวสินค้า แต่เมื่อเห็นสถานะเราไม่ Active เป็นเวลานาน เค้าก็อาจจะไปมองหาร้านอื่นบน Shopee ที่ตอบและบริการได้ไวกว่า นอกจากนี้หากเราตอบได้ไว ลูกค้าอาจจะให้คะแนนดีๆหลังจากซื้อสินค้าไปแล้ว ทำให้เราสามารถเป็นร้านค้าที่ Shopee แนะนำในอนาคตก็เป็นได้
- สร้างโปรโมชั่นเพื่อจูงใจลูกค้า ถ้าใครเคยซื้อของใน Shopee คงเคยเห็นว่าบางร้านค้าจะมีโค้ดส่วนลดแจกให้กับลูกค้า ตรงนี้เลย ลูกค้าบางคนชอบมากๆ เพราะเป็นการสร้างแรงจูงใจ จะลดนิดลดหน่อย หากเทียบกับร้านอื่นๆแล้ว เหมือนเรามีโปรดีๆ ลดแลกแจกแถม ก็จะทำให้เราสร้างความแตกต่างกับคู่แข่งได้อย่างมาก โดยเฉพาะกับสินค้าดรอปชิปจากในไทย ที่อาจจะมีคู่แข่งเยอะอยู่พอควร การสร้างโปรโมชั่นหรือโค้ดส่วนลด สามารถเข้าไปดูในหน้า Seller Center ของ Shopee ได้เลย
ทำความเข้าใจเกี่ยวกับดรอปชิป
บางคนอาจจะรู้จักหรือเคยได้ยินคำว่าดรอปชิปกันมาบ้าง แต่การทำดรอปชิปในไทยอาจจะห่างไกลความคุ้นเคยของหลายๆคนอยู่ แต่จะบอกว่าจริงๆบริการดรอปชิปในไทยเองนั้นก็มีมานานแล้วในระดับหนึ่ง ขั้นตอนการใช้บริการก็อาจจะแตกต่างกันไป แต่บอกเลยว่าสินค้าทั้งบน Shopee และ Lazada มาจากทั้งดรอปชิปทั้งไทยและเทศที่คละกันไป การทำธุรกิจแบบดรอปชิป คือ การที่เราไม่จำเป็นต้องสต็อคสินค้า หรือลงทุนซื้อสินค้าเพื่อนำมารอสำหรับขาย แต่เราจะเป็นคล้ายๆตัวกลาง หากมีออร์เดอร์เข้ามา เราก็จะส่งต่อให้บริษัทที่เราใช้บริการในด้านดรอปชิป เป็นผู้รับผิดชอบ ในการจัดส่งสินค้าไปยังปลายทางสู่ลูกค้าของเราอีกต่อ โดยเราก็จะต้องจ่ายค่าบริการและค่าสินค้าในจุดนี้ ทั้งนี้การตั้งราคาของเราจำเป็นต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายเหล่านี้ด้วย ส่วนการเลือกบริษัทที่ให้บริการดรอปชิปในไทย เราก็ควรจะเลือกบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือเป็นอันดับต้นๆ อาจจะลองเปรียบเทียบดูเบื้องต้นก่อน แล้วลองเช็คดูว่า สินค้าที่เค้านำมาขายแบบดรอปชิปนั้นมีสินค้าที่เราเล็งไว้สำหรับร้านค้าออนไลน์บน Shopee ด้วยหรือไม่ นอกจากนั้นก็ควรเช็คเรื่องเรตราคา ระยะเวลาในการขนส่งของ รวมถึงขั้นตอนต่างๆ อย่างน้อยเราต้องมั่นใจว่าตรงกับเป้าหมายของเราอย่างแท้จริง เบื้องต้น เราอาจจะยังไม่ชัวร์เพราะไม่เคยใช้บริการ อาจจะลองสั่งมาเพื่อนำมาขายแบบดรอปชิปตามออร์เดอร์ดูหลายๆเจ้า เป็นการเปรียบเทียบ เพื่อที่จะวัดเรื่องการบริการ ค่าธรรมเนียม และความรวดเร็ว เมื่อเราเปรียบเทียบได้ เราก็จะสามารถคัดเลือกเจ้าที่ดีที่สุด เพื่อที่จะนำสินค้าเรามาส่งให้ลูกค้าใน Shopee ของเราอีกต่อได้ และทำให้ลูกค้าประทับใจและกลับมาซื้อซ้ำในอนาคต
ข้อดีของดรอปชิปไทย
- สื่อสารติดต่อง่าย และย่นระยะเวลาการจัดส่งสำหรับสินค้าบางประเภท
- การทำดรอปชิปมักจะไม่มีการกำหนดเป้าหรือยอดขายขั้นต่ำ
- เราไม่จำเป็นต้องสต็อกของ แพคของหรือจัดส่งของ สามารถทำควบคู่กับงานประจำได้สบายๆ
- ไม่ต้องถ่ายรูปเอง ส่วนใหญ่ทางบริษัทดรอปชิปมักจะมีรูปถ่ายให้พร้อมอยู่แล้ว เราเพียงแต่คัดเลือกรูปที่มีคุณภาพลงในเว็บ Shopee เท่านั้น
ขั้นตอนการทำดรอปชิปเพื่อนำสินค้ามาลงขายบน Shopee
- เริ่มค้นหาบริษัทที่ให้บริการทางด้านดรอปชิปโดยเฉพาะ ในไทยเองมีหลายเจ้าที่เปิดให้บริการอยู่ เราสามารถค้นหาข้อมูลสินค้า ราคา และรายละเอียดเรื่องการขนส่งเพื่อใช้ในการตัดสินใจได้
- หลังจากตัดสินใจได้ เราสามารถเลือกสินค้าบนเว็บออนไลน์ของบริการดรอปชิปเจ้านั้นๆได้เลย บางเจ้าอาจจะมีข้อบังคับว่าต้องสมัครสมาชิกก่อนล่วงหน้า หลังจากนั้นถึงจะเข้าไปดูสินค้าและคัดเลือกสินค้าที่จะนำมาวางขายบน Shopee ได้
- เมื่อเลือกสินค้าได้ เบื้องต้นแนะนำให้เลือกรูปสินค้าหลายๆมุม และรูปถ่ายที่ชัดเจน เพื่อจะนำมาวางขายออนไลน์บน Shopee หากเราเช็คว่าสินค้านั้นมีเวลานานในการจัดส่ง เราควรตั้งค่าให้ถูกต้องใน Shopee ด้วยเช่นกัน เพราะไม่งั้นหากเราไม่ปรับเรื่องเวลา ลูกค้าจะเข้าใจผิด และเราอาจจะมีปัญหาในภายหลังได้
- วิธีการจัดส่งสินค้า ปกติหลังจากเรารับออเดอร์จากลูกค้าใน Shopee แล้ว เราสามารถติดต่อออเดอร์จากบริษัทดรอปชิปในไทยได้ทันที โดยที่เราชำระตามยอดจริงรวมค่าสินค้าและค่าจัดส่งแล้ว จากนั้นทางบริษัทดรอปชิปก็จะทำการจัดส่งสินค้าให้ถึงมือลูกค้าเราเอง โดยที่เราไม่ต้องไปกังวลเรื่องการแพกสินค้าและการจัดส่งสินค้าเลย
- ข้อควรระวัง เรายังคงจำเป็นต้องตอบข้อมูลและดูแลลูกค้าบน Shopee อยู่เสมอ รวมถึงต้องคอยอัพเดตให้ลูกค้าทราบถึงเรื่องกำหนดการจัดส่งด้วย เพราะจะมีผลต่อการให้คะแนนในส่วนของรีวิวหลังจากที่ลูกค้าได้ซื้อสินค้าแล้ว ตรงนี้จัดว่าเป็นหน้าที่ของร้านค้าโดยตรง ทางบริษัทดรอปชิปจะดูแลแค่การจัดส่งของเท่านั้น
สรุป
ปัจจุบันคนทำการซื้อสินค้าจาก Marketplace กันเป็นจำนวนมาก ซึ่ง Shopee นั้นก็เป็นช่องทางหนึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง สำหรับผู้เริ่มต้นการขายของออนไลน์เหมาะเป็นอย่างยิ่งที่จะเริ่มต้นด้วยการทำดรอปชิปสินค้าที่อยู่ในไทย และต่างประเทศ ไปลงขายบน Shopee เพื่อเป็นสนามซ้อม เนื่องด้วยใช้ทุนไม่เยอะ และสามารถเริ่มต้นได้ไม่ยากอีกด้วย
Resource:
https://shopee.co.th