ตอนนี้คนที่โดนหางเลขโควิด-19 ต่างก็หาทางเอาตัวรอด หลายคนพยายามหาวิธีขายของออนไลน์ยังไงให้มีคนซื้อ จนทำให้การขายของออนไลน์กลายเป็นเทรนด์อาชีพใหม่ที่ฮิตติดลมบนเลยทีเดียว แต่ก็ยังมีบางคนที่ยังไม่รู้ว่าขายของออนไลน์อะไรดี การขายของออนไลน์รูปแบบต่างๆ กันสารพัดวิธี ยิ่งเวลาผ่านไป เทคโนโลยีก้าวหน้าขึ้น เหล่าพ่อค้าแม่ค้ามือโปรก็พัฒนาเทคนิคกันจนคนที่เพิ่งลงสังเวียนธุรกิจออนไลน์วิ่งตามกันไม่ทันเลยทีเดียว แต่ถึงจะเริ่มช้าก็พัฒนาตัวเองให้ก้าวไวได้ไม่ยากเลย ดังนั้นวันนี้เราจะลงลึกเจาะเคล็ดลับกันอย่างละเอียดสำหรับวิธีขายของออนไลน์ยังไงให้มีคนซื้อ เพื่อที่จะช่วยไกด์ให้พ่อค้าแม่ค้ามือใหม่ขายของกันได้ดียิ่งขึ้น
ก่อนเริ่มลงมือทำแนะนำให้ปรับจูนแนวคิดก่อนเสมอ
แต่ก่อนที่จะลงลึกถึงวิธีขายของออนไลน์ยังไงให้มีคนซื้อนั้น สิ่งแรกที่เราขอแนะนำคือ เรื่องวิธีคิดหรือการปรับ Mindset นั่นเอง เพราะมีหลายคนที่มักจะล้มเลิกก่อนที่จะเริ่มเสียอีก นอกจากนี้สิ่งแวดล้อมรอบข้างก็อาจจะมีส่วนบ้าง เพราะคนส่วนใหญ่มองว่าการขายของออนไลน์เป็นเรื่องฉาบฉวย หรือเป็นส่วนหนึ่งของกลโกงธุรกิจ ด้วยสาเหตุแบบนี้เลยทำให้ครอบครัว หรือคนรอบข้างมักมองการขายของออนไลน์เป็นเรื่องไม่ดีไปซะแบบนั้น หรือบางคนก็มักมีความกลัว มีข้ออ้างต่างๆ นาๆ จนทำให้การที่จะเริ่มต้นนั้นเป็นจริงไม่ได้ซักที
ค้นหาความกลัวในใจของเรา
บอกได้เลยว่าต่อให้รู้ถึงวิธีขายของออนไลน์ยังไงให้มีคนซื้อเป็นร้อยเป็นพันวิธี แต่ถ้าเรายังมีความกลัวในการลงมือ หรือลงแรง สิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวที่ฉุดรั้งความสำเร็จเอาไว้อย่างน่าเสียดายที่สุด ดังนั้นลองหาวิธีการกำจัด “ความกลัว” ในใจของเรานั้น เอาจริงๆ แล้วขึ้นอยู่กับสไตล์ของแต่ละคน แต่สิ่งแรกเลยคือ หากเรามั่นใจมากขึ้น ความกลัวก็จะลดลงได้ ดังนั้นอาจจะลองเริ่มจากสิ่งง่ายๆ เหล่านี้ดูก่อน
– หาข้อมูลเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับตัวเอง บอกเลยว่ายิ่งเราเข้าใจเยอะ เรามีความรู้มากขึ้นกับสิ่งที่เรากำลังจะก้าวเดินไปหา ก็จะทำให้เรามั่นใจมากขึ้นนั่นเอง อาจจะลองวิธีง่ายๆ โดยไม่ต้องลงทุนมาก รู้ไหมว่าผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จสูงสุดให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ตลอดชีวิต Bill Gates อ่านหนังสือประมาณ 50 เล่มต่อปี และใช้เวลาพักร้อนในการอ่านหนังสือ 2 ถึงสัปดาห์เป็นประจำทุกปี ส่วน Warren Buffet ก็ทุ่มเวลาส่วนใหญ่ไปกับการเรียนรู้ตลอดชีวิต เห็นแบบนี้แล้วบอกเลยว่าพวกเราทุกคนก็ทำได้เช่นเดียวกัน อาทิเช่น การอ่านหนังสือ หาข้อมูลจากเว็บไซต์ เข้ากลุ่มความรู้การขายออนไลน์ หรือดู YouTube ที่มีการสอนและให้ความรู้เกี่ยวกับการขายสินค้าออนไลน์เป็นต้น
– ตั้งเป้าหมายที่เป็นไปได้และให้เหตุผลว่าทำไมควรเริ่มทำ เขียนเหตุผลว่าทำไมเราถึงอยากทำธุรกิจออนไลน์ คนเราพอมีเหตุผล ก็จะมีแรงจูงใจมากขึ้น ดังนั้นแค่บอกตัวเองว่าอยากมีเงินเยอะๆ อาจจะไม่เพียงพอ ขอแนะนำว่าอาจจะเขียนลงโน้ตไปเลยว่าเป้าหมายในการหาเงินของคุณคืออะไร เช่น อยากซื้อบ้านภายในสิ้นปี อยากเปลี่ยนรถใหม่ อยากใช้หนี้ให้หมด อย่าลืมกำหนดระยะเวลาลงไปด้วย เพราะจะช่วยให้เหตุผลของเราชัดเจนขึ้นอีกมากมายเลยทีเดียว
– วางแผนและจัดลำดับความสำคัญ ถึงจะรู้ว่ามีวิธีขายของออนไลน์ยังไงให้มีคนซื้ออยู่มากมายหลากหลายวิธี แต่หากคุณไม่รู้จักการวางแผน และการจัดเรียงความสำคัญมากไปน้อยเลย แบบนี้สิ่งที่คิดไว้ก็ยากจะเกิดขึ้นได้ ดังนั้นอย่าลืมเริ่มวางโครงสร้างและแผนงานทางธุรกิจของคุณก่อนที่จะลุยและลงมือทำ จากนั้นลองมาดูว่าอะไรคือ สิ่งสำคัญและเร่งด่วนที่สุด ให้เรียงลำดับแล้วลิสต์มันออกมาเพื่อที่จะได้ทำตามแผนและกำหนดการณ์ได้
เมื่อรู้วิธีการรับมือและจัดการกับความคิดของตัวเองแล้ว ดังนั้นคราวนี้คงถึงหัวข้อที่ทุกคนรอคอยอย่างใจจดใจจ่อ อย่างเคล็ดลับวิธีขายของออนไลน์ยังไงให้มีคนซื้อ ที่จะทำให้เพื่อนๆ ลงมือทำกันได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
1. หาช่องทางการขายออนไลน์ที่ถนัดที่สุด
ต้องบอกว่าในปัจจุบันระบบการขายของออนไลน์นั้นก้าวล้ำนำสมัยไปไกลอย่างมากมาย ที่สำคัญผู้ซื้อและผู้ขายต่างก็มีช่องทางในการซื้อขายสินค้าตามความถนัดของตนเองด้วย แต่สิ่งที่สำคัญสำหรับคนขายของออนไลน์นั้นคือ ในกรณีที่เพิ่งเริ่มต้น ยังไม่มีทรัพยากรหรือเงินทุนมากมายนัก อาจจะต้องทำคนเดียวไปก่อน ก็ขอแนะนำให้เลือกช่องทางการขายให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายและกลุ่มสินค้าของเราเป็นหลัก ช่องทางการขายที่ดีก็เป็นทางลัดของวิธีขายของออนไลน์ยังไงให้มีคนซื้ออย่างดีเลยด้วยทีเดียว อาทิเช่น
- E-commerce Platform (Shopee, Lazada, JDCentral, Amazon, Ebay และอีกมากมาย)
- Social Media (Facebook, IG, Tiktok, Twitter, Line)
- Website (เว็บไซต์ทั่วไป หรือ Sales Page)
2. ทุนน้อยแต่พร้อมลุยลอง Dropshipping ดูก่อน
จริงๆ แล้ว Dropshipping นั้นเป็นวิธีการขายของออนไลน์ที่มีมานานพอสมควร ส่วนในเมืองไทยเองก็มีกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าจำนวนไม่น้อยที่ใช้วิธีนี้ในการขายสินค้า เพราะช่วยทั้งประหยัดต้นทุน ประหยัดเวลา เนื่องจากเราไม่ต้องมานั่งแพคของเอง หากเจอผู้ผลิตหรือซัพพลายเออร์ที่มีการบริการ Dropshipping นั้น เขามักจะแพคและส่งสินค้าให้เราเสร็จเรียบร้อย ส่วนคนขายก็รอรับส่วนต่างที่ได้จากการขายสินค้า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นด้วยความที่วิธีการนี้ลงทุนไม่เยอะ ในตลาดจึงมีพ่อค้าแม่ค้าใช้วิธีนี้เยอะ คนขายเลยอาจจะต้องเผชิญกับปริมาณคู่แข่งที่เยอะพอควร ดังนั้นอาจจะต้องไปเน้นเรื่องการทำการตลาด หรือหาวิธีส่งเสริมการขายที่ทำให้สินค้าของเราดูแตกต่างและเหนือกว่าคู่แข่ง (12 สิ่งที่คุณควรรู้ก่อนเริ่มทำดรอปชิป)
3. เริ่มทำ Content Marketing
หากคุณคิดว่าจะจริงจังกับการค้าขายออนไลน์ สิ่งหนึ่งซึ่งลืมไม่ได้เลยคือ เรื่องของการทำ Content Marketing เพราะยิ่งเรามีคอนเทนต์ที่ดี ก็มีชัยไปกว่าครึ่ง เคยเห็นไหมว่าคอนเทนต์บางอย่างดูไม่ได้มีอะไรซับซ้อน ไม่ได้ยิงโฆษณา แต่ก็กลายเป็นคอนเทนต์ไวรัลได้อย่างน่าตะลึง จนช่วยสร้างกระแสให้กับสินค้าหรือแบรนด์นั้นๆ ได้เป็นอย่างดี ส่วนคอนเทนต์ในปัจจุบันนั้นไม่ว่าจะเป็นคอนเทนต์แบบคลิปวีดีโอ คอนเทนต์บทความ หรือคอนเทนต์ในรูปแบบอื่นๆ หากทำถูกจุด และทำให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายของคุณ ก็สามารถสร้างความน่าสนใจและเพิ่ม engagement ให้กับสินค้าหรือร้านค้าของคุณได้เช่นเดียวกัน แต่ถ้าหากคุณไม่ใช่สายสร้างคอนเทนต์ ไม่มีไอเดียในการคิด ปัจจุบันนี้ก็มีทั้งเอเจนซี่เจ้าเล็กเจ้าใหญ่ รวมไปถึงฟรีแลนซ์มากมายที่มีทักษะในด้านนี้ ที่สามารถช่วยให้คุณเผยแพร่คอนเทนต์ของสินค้าและบริการดีๆ ไปยังกลุ่มเป้าหมายของคุณได้
4. ออกแบบร้านค้าออนไลน์ให้น่าสนใจ
เมื่อพูดถึงการซื้อขายออนไลน์ ความประทับใจแรกพบของลูกค้าก็คือ ร้านค้าหรือเว็บไซต์ที่เขาได้แวะเข้าไปซื้อหาสินค้านั่นเอง โดยร้านค้าออนไลน์ที่ดี ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าบนเว็บไซต์ที่พัฒนาเอง เป็นร้านค้าบนโซเชี่ยลมีเดีย หรือ Marketplace อย่าง Shopee หรือ Lazada ทั้งหมดนี้เป็นช่องทางและวิธีขายของออนไลน์ยังไงให้มีคนซื้อ
ผ่านการนำเสนอด้วยหน้าร้านและการออกแบบที่น่าสนใจ ซึ่งส่งผลทำให้ลูกค้ารู้สึกดี อยากจะเลือกซื้อสินค้าของคุณ เพราะเป็นการสร้างความเชื่อถือ และช่วยทำให้ลูกค้าสามารถเข้าใจแบรนด์และผลิตภัณฑ์ของคุณได้โดยง่าย นอกจากนี้การออกแบบร้านค้าออนไลน์ยังสมควรที่จะคงความเป็นมืออาชีพ เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจว่าสินค้าจากร้านคุณนั้นมีคุณภาพเยี่ยมจนทำให้ลูกค้ากล้าที่จะควักกระเป๋าตังค์จ่าย แล้วอย่าลืมพัฒนาร้านค้าออนไลน์ให้มีความสามารถในการตอบสนองต่ออุปกรณ์มือถือให้ได้ดีด้วย โดยการโหลดหน้าเว็บไม่ควรช้าเกินไป ควรมีการวางโครงสร้างที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถค้นหาสินค้าเจอได้ง่าย และมีข้อมูลที่คลายกังวลและไขข้อสงสัยในใจลูกค้าได้ โดยจากข้อมูลของ We are social มีการสำรวจและพบว่าการช็อปปิ้งออนไลน์ของลูกค้าชาวไทยนั้นนิยมซื้อสินค้าผ่านโทรศัพท์มือถือเกือบ 70% เลยทีเดียว เห็นตัวเลขที่สูงลิบขนาดนี้แล้ว ดังนั้นการสร้างเว็บไซต์หรือสร้างร้านค้าควรคำนึงถึงการใช้งานที่ออกแบบเพื่อรองรับโทรศัพท์มือถือด้วยเช่นกัน
5. ใช้ Chatbot ช่วยเร่งสปีดการบริการลูกค้า
Lถือว่าโชคดีมากที่ปัจจุบันเรามีระบบ Chatbot เข้ามาช่วยในการคุยกับลูกค้า โดยจากข้อมูลของ Gartner พบว่า 85% ของลูกค้ากับแบรนด์นั้นพูดคุยโต้ตอบโดยไม่ต้องใช้คนจริงๆ นั่นก็คือ ใช้ Chatbot นั่นเอง ซึ่ง Chatbot นั้นจะทำหน้าที่ในการตอบคำถามต่างๆ ให้แก่ลูกค้าได้ในระยะเวลาอันสั้น ไม่ปล่อยให้ลูกค้ารอนานจนหนีออกจากร้านไป นอกจากนี้จากข้อมูลของ Forrester พบว่าลูกค้า 63% พอใจในการบริการ ดังนั้นหากคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่ต้องทำงานประจำ หรือว่ายังมีทุนไม่เยอะนัก การใช้แชทบอทเข้ามาช่วยตอบคำถามลูกค้าก็ถือเป็นการสร้างเสริมบริการที่รวดเร็ว และสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าได้เช่นกัน
6. ใช้การโฆษณาผ่าน Google AdWords
ต้องบอกว่า Google นั้นถือเป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมสูงที่สุด ดังนั้นไม่ว่าใครจะค้นหาข้อมูลอะไร หรือค้นหาสินค้าที่ต้องการซื้อ แน่นอนว่ามักจะลงเอยกับการใช้ Google Search แทบทั้งนั้น ดังนั้นบอกได้เลยว่าการโปรโมทและลงทุนกับค่าโฆษณาบน Google Ads จึงน่าสนใจอย่างมากสำหรับร้านค้าออนไลน์ วิธีการใช้งานก็ไม่ได้ยากลำบาก เพียงเลือกสร้างแคมเปญ AdWords คุณสามารถสร้างโฆษณาที่ตรงเป้าหมาย ซึ่งโฆษณาเหล่านี้จะถูกแสดงเวลามีการค้นหาใน Google แต่นอกเหนือจากวิธีใช้แล้ว เทคนิคและเคล็ดลับในการใช้งานน่าจะช่วยสร้างประสิทธิภาพได้ดียิ่งขึ้น หากพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์พอมีเวลา แนะนำว่าให้ลองศึกษาคอร์สเรียน Googles AdWords จากทาง Google โดยตรงได้ ไม่ต้องเสียค่าเรียนแต่อย่างใด
7. ใช้โฆษณาผ่านโซเชี่ยลมีเดีย
ต้องบอกว่าแพลตฟอร์มยอดฮิตสำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์คงหนีไม่พ้น Facebook ยิ่งในช่วงหลายปีก่อนการยิงแอดโฆษณานั้นต้นทุนต่ำ การแข่งขันน้อย ยิงแบบไม่ต้องใช้เทคนิคอะไรมากมาย ก็สร้างผลลัพธ์ได้เยอะจนทำให้หลายคนตั้งตัวได้เลยทีเดียว แต่ในปัจจุบัน Facebook มีกฎกติกา และการปรับอัลกรอริธึ่มอยู่บ่อยครั้ง จนทำให้โฆษณาไม่ดีเหมือนก่อน บางคนถึงขั้นโดนปิดโฆษณาและโดนปิดบัญชีเลยทีเดียว ดังนั้นในยุคนี้การปรับตัวจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ อาจจะต้องพิจารณาในเรื่องของการสร้างคอนเทนต์ที่ดี และไม่ละเมิดต่อกฎของเฟซบุ๊ค นอกจากนี้อาจจะลองมองการยิงโฆษณาบนแพลตฟอร์มอื่นๆ เพิ่มเติมอย่าง IG หรือ TikTok การลองหาช่องทางการโปรโมทร้านและสินค้าใหม่ๆ แบบนี้ อาจจะเป็นการเปิดโอกาสใหม่และเป็นวิธีขายของออนไลน์ยังไงให้มีคนซื้อก็เป็นได้
สรุป
หากอ่านมาถึงตรงนี้แล้วจะเห็นได้เลยว่าวิธีขายของออนไลน์ยังไงให้มีคนซื้อนั้นมีเทคนิคและกระบวนการพิเศษต่างๆ ที่อยู่ในแต่ละวิธีการ สิ่งที่สำคัญก็คือการลงมือทำ และการเลือกใช้กลยุทธ์ในการขายออนไลน์ให้เหมาะกับประเภทสินค้าและกลุ่มเป้าหมายให้มากที่สุด เพราะสุดท้ายแล้วผู้ซื้อจะเป็นคนตัดสินเองว่าร้านค้าออนไลน์ของคุณสามารชักจูงให้เขาหยิบสินค้าลงตระกร้าได้หรือไม่นั่นเอง
Reference:
https://www.forbes.com/sites/carolinecastrillon/2019/02/10/how-to-use-fear-as-fuel-when-starting-a-business/?sh=6fa228c65550
https://www.entrepreneur.com/article/302154
https://bit.ly/35He6z4 https://neilpatel.com/blog/your-first-online-sale/
https://www.wordstream.com/blog/ws/2016/02/03/increase-sales-online