เริ่มขายของออนไลน์ด้วย Website หรือแฟนเพจ แบบไหนดีกว่ากัน?

website-vs-facebook

เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่คนที่คิดจะเริ่มทำธุรกิจออนไลน์จะต้องเคยคิดถึงกันอย่างน้อยสักครั้งแน่นอนครับในการพัฒนาแบรนด์ หรือการขายสินค้าออนไลน์นั้นการเลือกเว็บไซต์หรืองานแฟนเพจถือเป็นเรื่องยาก
สองช่องยอดนิยมคือผู้ใช้ที่นิยมมากที่สุด ได้แก่ Website และ Fanpage Facebook เป็นช่องทางการขายที่เข้าถึงลูกค้าได้หลากหลาย

แนวคิดของการมีเว็บไซต์คืออะไร?

เว็บไซต์เป็นเหมือนร้านค้าบนท้องถนนกับเขา คนจะมาที่ร้านของคุณถ้าคุณต้องการและคุณไม่จำเป็นต้องกังวลกับพวกเขาเมื่อพวกเขากำลังจะเดินเล่นที่อื่น ระหว่างที่ลูกค้าคุณไปเดินเล่นคุณก็สามารถที่ใช้เวลานั้นในการปรับปรุงร้านค้าของคุณให้หน้าดูมากขึ้น ตกแต่งสิ่งต่างๆได้ตามเทรนด์ตามยุคสมัย หรือให้เหมาะสมกับกลุ่มของลูกค้าของคุณมากที่สุดได้ หากคุณสังเกตดีๆ จริงๆแล้ว เว็บไซต์นี้เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสูงสุด เว็บใหญ่ๆต่างๆเช่น Amazon, Alibaba, Lazada, Ebay … ทั้งหมดประสบความสำเร็จจากเว็บไซต์ หรือมีเว็บไซต์เป็นศูนย์กลาง

ประโยชน์ของการขายเว็บไซต์บน Facebook คืออะไร?

ความน่าเชื่อถือสูง ในความคิดของผู้บริโภคการซื้อของใน Facebook นั้นดูหน้าเชื่อถือกว่าเว็บไซต์บางเว็บไซต์ เนื่องจากความเห็นต่างๆที่อยู่ในโพสหรือแฟนเพจ เป็นเหมือน Social Proof ที่ช่วยความน่าเชื่อถือให้กับแฟนเพจนั้นๆนั่นเอง

How much does it cost?

Cost (ต้นทุน)

Website:

การสร้างเว็บไซต์ขึ้นมาหนึ่งเว็บไซต์ ในสมัยยุคแรกๆนั้นมีความยากลำบากมากครับ คุณจะต้องรู้จักเรื่องยากๆหลายอย่างด้วยกันเช่น การติดตั้ง Server, การเซ็ตอัพค่าต่างๆ ให้พร้อมใช้งานเว็บไซต์ และจะต้องมีความรู้ทางด้านโปรแกรมิ่ง พอสมควรถ้าจะลงมือทำเอง แต่ถ้าคิดจะจ้าง ก็จะเจอปัญหาเข้ามาอยู่เรื่อยๆยิ่งทำให้ cost บานปลายไปกันใหญ่

แต่ในปัจจุบันนี้เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียวครับ คุณสามารถที่จะมีเว็บไซต์ได้เพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น พร้อมให้คุณได้ขายของได้ทันที ขอเพียงคุณทำตามขั้นตอนได้อย่างถูกต้อง ส่วนเรื่องราคาก็ถูกลงๆมาก คุณสามารถเป็นเจ้าของเว็บไซต์ได้ด้วยเงินจำนวนไม่ถึง 1,000 บาทในแต่ละเดือน

Fanpage:

เนื่องจาก Fanpage ของเรามี Facebook เป็นเจ้าของทำให้เราสามารถใช้บริการได้ฟรี หรือศูนย์บาทและกับการที่ Facebook เอาข้อมูลส่วนตัวเรานำไปใช้งาน

สรุป: ในเรื่องต้นทุน FB Fanpage ชนะเรื่องจากใช้ฟรี แต่เว็บไซต์ก็มีราคาถูกลงมามากเช่นกัน

2018 SEO Trends 2

SEO การติดอันดับของ Google

เว็บไซต์จะได้เปรียบในเรื่องการจัดอันดับแสดงผลของ Google ได้ดีกว่าใน Facebook
ด้วยเหตุนี้เมื่อเวลาลูกค้าของเราต้องการหาสินค้าผ่าน Google เว็บไซต์จึงนำเสนอผลการค้นหาได้ดีกว่า และสร้างความมีตัวตนที่แท้จริงบนโลกออนไลน์ให้กับเจ้าของ ทุกๆครั้งที่คุณมีการลงโฆษณาบน Facebook หรือ Platform Social ต่างเช่น IG, Twitter คนทั่วไปไม่ได้ทำการตัดสินใจซื้อสินค้านั้นทันที ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะมาจบด้วยการค้นหาสินค้านั้นบน Google อีกทีหนึ่ง หรืออ่านรีวิวสินค้านั้นๆผ่านบทความอื่นๆที่แสดงอยู่บน Google

สรุป: ในข้อนี้ Website ชนะไป

are you sure

Certainty (ความแน่นอน)

คนส่วนมากไม่เคยตระหนักถึงข้อนี้ ว่าธุรกิจที่คุณสร้างขึ้นมากับมือนั้น จริงๆแล้วมันเป็นของคุณจริงหรือไม่ ที่เห็นกันชัดๆคือตัวอย่างข่าวนี้

พิษอัลกอริทึม Facebook เปลี่ยน ส่งผลให้สื่อไลฟ์สไตล์รายใหญ่ในสหรัฐฯปิดตัว

ถึงแม้ว่าจะมีแฟนเพจถึง 12 ล้านคน แต่เมื่อเฟสบุ๊คประกาศปรับเปลี่ยนเพียงนิดเดียวเท่านั้น ธุรกิจออนไลน์ของคุณก็อาจจะหายไปได้ในพริบตา

เว็บไซต์นั้นยังไงก็ยังถือเป็นสินทรัพย์บนโลกออนไลน์ของคุณที่ยั่งยืนกว่ามาก คุณสามารถขายเว็บไซต์ของคุณหรือ Domain Name ของคุณได้เมื่อคิดจะเลิกทำ

สรุป: ในเรื่องของความแน่นอนนั้นเว็บไซต์เป็นฝ่ายชนะไป

ถ้าให้ผมแนะนำ ถ้าคุณเพิ่งคิดจะเริ่มทำธุรกิจในตอนนี้ ผมคิดว่า Website น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคุณ

เพราะความง่ายที่เพิ่มมากขึ้น รวมกับผลพลอยได้ที่คุณจะได้ในระยะยาวด้วยแล้ว

ถ้าคุณคิดจะจริงจังกับธุรกิจของคุณแล้วละก็ ผมเชียร์เว็บไซต์ครับ

แต่ถ้าใครคิดที่จะทดลองขายของ เพื่อลองตลาด หรือค้าขายระยะสั้นหรือตามเทรนซ์ FB Fanpage แต่ก่อนก็อาจจะตอบโจทย์คุณในข้อนี้ครับ

แต่ล่าสุดที่มีการลดจำนวนการเข้าถึงโพสของแฟนเพจ ดูเหมือนจะทำให้จุดแข็งของ FB Fanpage ในข้อนี้ก็ถูกทำลายลงไปพร้อมๆกันด้วย

ยังไงก็ลองคิดและพิจารณาให้ถี่ถ้วนให้ดีก่อนที่จะเริ่มต้นทำธุรกิจออนไลน์ของคุณนะครับ

Our Score
Click to rate this post!
[Total: 0 Average: 0]
>